อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านสำคัญ คาดว่าภายในปี 2571 ตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมความต้องการขนส่งที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 2.7 เท่าในปี 2593 จากแรงหนุนของอีคอมเมิร์ซและซัพพลายเชนระหว่างประเทศ แต่ภาคโลจิสติกส์ยังเป็นต้นเหตุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 11% ของโลก
🔸 นี่คือเหตุผลที่ “โลจิสติกส์สีเขียว” กลายเป็นทางรอดใหม่
รายงาน Green Logistics Innovation for Emerging Markets ชี้ว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่—including ไทย—มีช่องว่างโอกาสมหาศาลผ่านการใช้ 15 นวัตกรรมสีเขียว เช่น
-เชื้อเพลิงสะอาด (H2, SAF, ไบโอดีเซล)
-รถบรรทุกไฟฟ้า–รถบรรทุกไฮโดรเจน
-ระบบจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะลดพลังงาน
-โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว เช่น ศูนย์กระจายสินค้า Net-Zero
-การวางเส้นทางด้วย AI ลดระยะทาง–ลดใช้เชื้อเพลิง
และยังเป็นโอกาสสร้างงานใหม่ใน “Green Job” เช่น นักวิเคราะห์คาร์บอน, นักวางระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ และผู้เชี่ยวชาญ EV Fleet
🔸 ไทย: โอกาสสำคัญในฐานะฮับโลจิสติกส์ของอาเซียน
ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาค ด้วย
-สถานะ “ประตูอาเซียน” เชื่อมจีน–ลาว–กัมพูชา–มาเลเซีย
-การลงทุนใหญ่ใน EEC, รถไฟทางคู่, รถไฟความเร็วสูงเชื่อมด่านชายแดน
-ภาครัฐผลักดัน EV, เชื้อเพลิงชีวภาพ และระบบติดตามสินค้าดิจิทัล
สนข. และสถาบันโลจิสติกส์ไทยระบุว่า ไทยสามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ 10–15% หากเปลี่ยนสู่ระบบสีเขียวเต็มรูปแบบ พร้อมเพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดที่ต้องรายงานคาร์บอน เช่น CBAM ของยุโรป
🔸 พิมพ์เขียว 4 ขั้นเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่าน
- กฎระเบียบ–นโยบายกรีนโลจิสติกส์แบบบูรณาการ
-ใช้ภาษี–สิทธิประโยชน์กระตุ้นการลงทุนยานยนต์สะอาดและคลังสินค้าคาร์บอนต่ำ - เร่งระดมทุนสีเขียว
-ใช้ Blended Finance สนับสนุน SMEs ที่ต้องเปลี่ยนรถ–คลังสินค้า–ระบบไอที - พัฒนาทักษะบุคลากรโลจิสติกส์ดิจิทัล
-Smart Logistics, AI Routing, Carbon Management System - สร้างความร่วมมือทั่วทั้งซัพพลายเชน
-รัฐ–เอกชน–ผู้ประกอบการขนส่ง รวมถึงสถาบันการเงินร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่
🔸 ทำไมต้องเร่งทำ “ตอนนี้”?
-ปี 2569 โลกจะเข้มงวดกฎคาร์บอนมากขึ้น เช่น CBAM, EUDR และ SAF Mandate
-ผู้ซื้อสินค้ารายใหญ่กำหนดให้ซัพพลายเออร์ต้องมีข้อมูลคาร์บอน (Scope 3)
-ระบบขนส่งต้นทุนสูงขึ้น—จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีลดพลังงาน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยุคทดลองของโลจิสติกส์สีเขียวกำลังจบลง และกำลังเข้าสู่ “ยุคขยายผล” ใครทำก่อนจะได้เปรียบระดับภูมิภาคในอีก 10 ปีข้างหน้า
