“แอ่งนันไก” จุดที่จะทำให้ญี่ปุ่นเจอกับมหาภัยพิบัติครั้งใหญ่

หลังจากญี่ปุ่นได้เพิ่มระดับความเสี่ยงของ “เมกะเควก” (Megaquake)  สร้างความวิตกกังวลกับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นคาดว่ามาจากการเคลื่อนตัวของ ร่องลึกนันไก หรือ “แอ่งนันไก”จุดที่จะทำให้ญี่ปุ่นเจอกับมหาภัยพิบัติครั้งใหญ่

แอ่งนันไก (Nankai Trough)  คืออะไร?

แอ่งนันไก (Nankai Trough) เป็นร่องน้ำลึกมีลักษณะคล้าย ๆ ตัว U และมีความลึกมากถึง 4,000 เมตร เป็นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นแนวรอยเลื่อนสำคัญที่เป็นแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ที่มีความยาวกว่า 800 กิโลเมตร โดยทั้งสองแผ่นเปลือกโลกนี้คือ แผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์ และแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย

ทั้งสองแผ่นเปลือกโลกนี้เคลื่อนตัวในอัตราเร็ว 3-5 เซนติเมตรต่อปี เมื่อแผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์มุดตัวเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ทำให้เกิดความกดดันสะสมมากเกินไป แผ่นเปลือกโลกยูเรเซียจึงเด้งขึ้นก่อให้เกิดแผ่นดินไหว

บริเวณแอ่งนันไก  (Nankai Trough) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอนชูซึ่งใกล้กับเมืองขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เช่น โอซาก้า และนาโกย่า

เมื่อรอยเลื่อนบริเวณแอ่งนันไกเคลื่อนตัวจะเป็นอย่างไร?

1. แผ่นดินไหวขนาดมหึมา: หากรอยเลื่อนบริเวณแอ่งนันไกเคลื่อนตัวอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดมหึมาและรุนแรงในระดับเมกะทรัสต์ หรือมีขนาดใหญ่กว่า 8.0 โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นทุก ๆ คาบเวลา 100 – 150 ปี ซึ่งแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 78 ปีก่อน ซึ่งก็จะใกล้เข้าคาบเวลาที่แผ่นดินไหวนี้จะเกิดขึ้นแล้ว
2. สึนามิ: เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ผลกระทบที่มักเกิดขึ้นตามมาก็คือ “สึนามิ” ที่ก่อให้เกิดผลกระทบวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งญี่ปุ่น

โดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ทางคณะกรรมมาธิการวิจัยแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่าแผ่นดินไหวขนาดมหึมาอาจเกิดในช่วง 30 ปีข้างหน้า! ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นสูงสุด 82%

ญี่ปุ่นเตรียมรับมือกับมหาภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างไร?

คณะผู้เชียวชาญภายใต้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้ประชาชนเฝ้าระวังแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นญี่ปุ่นได้เตรียมรับมือกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไว้ดังนี้

1. ติดตั้งระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิที่ทันสมัย
2. ซ้อมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
3. อาคารแต่ละหลังในญี่ปุ่นสามารถต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวมากขึ้น

ที่มา

thestandard.co

asia.nikkei.com