“มัทฉะ” ที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ ไม่ใช่แค่ชาแต่ดีต่อสุขภาพ
เทนด์ “มัทฉะ” ที่กำลังมาแรงจนสินค้าทั้งในไทยและญี่ปุ่นถึงกับขาดตลาด ด้วยประวัติยาวนานมากกว่า 800 ปี และมีผลดีต่อสุขภาพจนต้องบอกกันปากต่อปาก จึงเป็นเหตุให้มัทฉะติดเทรนด์ตลาดในตอนนี้
ทำไมมัทฉะญี่ปุ่นถึงดี?
- ปลูกแบบพิเศษทำให้มีสารอาหารสูง
- มัทฉะที่ญี่ปุ่นถูกปลูกด้วยวิธี “เทนฉะ” (Tencha) หรือปลูกในที่ร่ม 3 – 4 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว ใบชาจึงมีคลอโรฟิลล์สูงขึ้น ใบชามีสีเขียวเข้มกว่าปกติ และมีกรดอะมิโน L-Theanine สูง ส่งผลให้มัทฉะมีรสชาติอุมามิ (Umami) และหวานกลมกล่อมมากกว่าชาเขียวทั่วไป
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (Catechins & EGCG)
- มัทฉะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 137 เท่า และมี Epigallocatechin Gallate (EGCG) ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรคมะเร็งและช่วยควบคุมน้ำหนัก
- ให้พลังงานโดยไม่ทำให้ใจสั่น (L-Theaninet Caffeine) เหมือนกาแฟ
- ตัวมัทฉะมีคาเฟอีน พอ ๆ กับกาแฟ แต่ให้พลังงานแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงมี L-Theanine ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และทำให้มีสมาธิ พลังงานที่ได้สามารถอยู่ได้นานถึง 4 – 6 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการกระวนกระวายแบบกาแฟ
- ดีต่อสุขภาพลำไส้ และช่วยเผาพลาญไขมัน
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยปรับสมดุลลำไส้กระตุ้นการเผาพลาญไขมันได้มากขึ้นถึง 17% เมื่อออกกำลังกาย
- ไม่มีสารเคมีตกค้างและมีคุณภาพสูง
- มัทฉะแบบพรีเมียมของญี่ปุ่นปลูกโดยไม่มีสารเคมีตกค้าง และมีกรรมวิธีในการผลิตที่พิถีพิถัน
ทำไมถึงเป็นกระแสในตอนนี้?
- เทรนด์สุขภาพ (Healthy Lifestyle Trend)
- ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นจึงทำให้มัทฉะเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตแทนกาแฟ ให้พลังงานสูง และใจไม่สั่นเหมือนกาแฟ ดีต่อสุขภาพและช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
- คาเฟ่และเครื่องดื่มมัทฉะเป็นที่นิยมมากขึ้น
- มีแบรนด์ชั้นนำที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มหลายแบรนด์ที่มาขยายตลาดมัทฉะให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่น Starbuck, %Arabica, และ Tsujiri เป็นต้น
- ทำได้ที่บ้าน
- การทำมัทฉะที่บ้านกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถครีเอทไห้หลากหลายเมนู และดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงอินฟลูเอนเซอร์และบล็อกเกอร์สุขภาพทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการชงมัทฉะกันมากขึ้น
- วัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นที่นิม (Japan Wave)
- ปัจจุบันคนรุ่นใหม่สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อนิเมะ หรือแม้แต่กระทั่งคาเฟ่ญี่ปุ่น ซึ่งการดื่มมัทฉะก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่นเช่นกัน
ถ้าอยากกินมัทฉะจะมีวิธีเลือกอย่างไรให้ได้คุณภาพดี?
- สีเขียวสด ไม่ออกสีเหลืองน้ำตาล: คลอโรฟิลล์สูง และมีคุณภาพดี
- เนื้อต้องละเอียดเหมือนแป้ง ไม่เป็นเม็ด : ถ้าเป็นมัทฉะของแท้เนื้อจะต้องเนียนละเอียดมาก
- กลิ่นต้องหอม ไม่เหม็นเขียว : ถ้ามีกลิ่นฉุนหรือเหม็นเขียว อาจเป็นมัทฉะเกรดต่ำ
- รสชาติไม่ขมจัด อูมามิ และหวานอ่อน ๆ : มัทฉะเกรดดีจะมีรสชาติอูมามิ และหวานจากธรรมชาติ
ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมดนี้ทำให้มัทฉะกลายเป็นเทรนด์ที่ผู้คนนิยมกันในปัจจุบัน เพราะ “มัทฉะไม่ใช่แค่ชาธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ”
Related posts:
อาหารในช่วงเช้าอันแสนวุ่นวายจะเป็นอะไรไปไม่ได้หากไม่ใช่ “ซีเรียล” คนอเมริกันกว่า 53% ตัดส...
ซีเรียลอาหารเช้าดีต่อเราจริงหรือ?
อาหารเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุดของวัน อาหาร...
สารพัดประโยชน์ของ “น้ำส้มสายชู”
“น้ำส้มสายชู” ของประจำบ้านที่ใครหลายคนรู้จัก เพียง...
ดื่มน้ำเยอะเกินอาจอันตรายถึงชีวิต!
“น้ำ” องค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิต การดื่มน้ำว...
Post Views: 2