นักดื่มไวน์ควรระวัง! พบ “สารเคมีตลอดกาล” ในไวน์
นักดื่มไวน์อาจได้รับ “สารเคมีตลอดกาล” โดยไม่รู้ตัว หลังนักวิจัยพบ “กรดไตรฟลูออโรอะซิติก” (TFA) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารเคมีตลอดกาล ในระดับที่สูงกว่าน้ำดื่มถึง 100 เท่า
เมื่อไม่นานมานี้นักวิจัยในเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแห่งยุโรป (PAN Europe) ได้ทดสอบตัวอย่างไวน์ทั้งหมด 49 ขวด ซึ่งผลการทดสอบก็เป็นที่น่าตกใจ และน่ากังวลใจอย่างมากเมื่อพบ “กรดไตรฟลูออโรอะซิติก”(TFA) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารเคมีตลอดกาล ในระดับที่สูงกว่าน้ำดื่มถึง 100 เท่า
ไวน์ที่พบการปนเปื้อนส่วนมากอยู่ในไวน์ที่ผลิตหลังปี 2010 ทั้งในไวน์ออร์แกนิกและไวน์ทั่วไป แต่ไวน์ออร์แกนิกมีสารพิษระดับต่ำกว่า ซึ่งแตกต่างจากไวน์ที่ผลิตก่อนปี 1988 ไม่มีร่องรอยของสารเคมีตลอดกาลอยู่เลย องค์กรจึงขอให้พันธมิตรทั่วทั้งยุโรปส่งตัวอย่างไวน์จากแต่ละประเทศมาทำการทดสอบเพิ่มเติม
การที่ไวน์ออร์แกนิกตรวจพบสาร TFA แสดงให้ว่า มีการปนเปื้อนสารเคมีในสิ่งแวดล้อม ทั้งในน้ำฝน น้ำใต้ดิน และดินทางการเกษตร นอกจากนี้นักวิจัยยังพบว่า ไวน์ที่มีความเข้มข้นของ TFA สูงที่สุด ยังมีปริมาณยาฆ่าแมลงตกค้างสูงสุดอีกด้วย แสดงว่าเป็นยาฆ่าแมลงเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ TFA ปนเปื้อนในไวน์ได้
ซึ่งผลการทดสอบจากประเทศต่าง ๆ ในยุโรป 10 ประเทศก็ตรงกับผลทดสอบขององค์กร PAN Europe ที่พบกรดไตรฟลูออโรอะซิติก (TFA) ในไวน์ที่ผลิตหลังปี 2010 และไม่พบในไวน์ที่ผลิตในปี 1988 – 2010
กาเบรียล ซิกมันด์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wageningen ในเนเธอร์แลนด์และผู้เขียนร่วมของการศึกษานี้ กล่าวว่าสาร TFA ไม่สามารถย่อยสลายได้ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ ในการกำจัดสารชนิดนี้มีต้นทุนสูง ใช้พลังงานและน้ำมาก
โดยผลกระทบของ TFA จะส่งผลกระทบต่อร่างกายหลัก ๆ มีดังนี้
- เป็นอันตรายเมื่อสูดดมเข้าไป
- มีความเป็นพิษเมื่อรับประทาน หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนของระบบทางเดินอาหาร
ที่มา