ช่วงมีประจำเดือนผลิตภัณฑ์อนามัยแบบไหนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ในยุโรปผลิตภัณฑ์อนามัยแบบใช้แล้วทิ้งมีมากกว่า 49,000 ล้านชิ้นต่อปี แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ทั้งผ้าอนามัย และกางเกงอนามัย ไปจนถึงถ้วยอนามัย แล้วผลิตภัณฑ์ไหนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด?
ผู้เขียนบทความนี้ “Ana Santi” ได้เล่าเรื่องราวเมื่อ 2-3 ปีก่อนว่าเธอได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนสาวในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อนสาวคนหนึ่งของเธอบอกว่าเธอใส่กางเกงอนามัยในช่วงเป็นประจำเดือน ซึ่งเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนการใช้ผ้าอนามัย และผ้าอนามัยแบบสอด เธอลังเลว่ากางเกงอนามัยแบบนี้จะซึมซับประจำเดือนได้เพียงพอหรือไม่? แต่เพื่อนของเธอก็ทำให้เธอเปลี่ยนใจและหันมาใช้กางเกงอนามัยหลังจากนั้น
แต่เธอก็รู้สึกสับสนขึ้นมา เมื่อเธอเดินดูสินค้าเกี่ยวกับประจำเดือนในซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับประจำเดือนมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าอนามัยและผ้าอนามัยแบบสอด (บางชนิดเป็นแบบออร์แกนิก) รวมไปถึงถ้วยอนามัยหลากหลายประเภท
ถึงแม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้เลือกแต่ก็พบว่าในยุโรปยังมีการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือนแบบใช้แล้วทิ้ง 49,000 ล้านชิ้นต่อปี และในสหรัฐอเมริกามีการทิ้งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถึง 20,000 ล้านชิ้นต่อปี โดยส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีพลาสติกผสมอยู่ถึง 90% และมักจะจบลงท่ี่หลุมฝังกลบ
ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงตั้งใจค้นคว้าผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือนแบบยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ซึ่งเธอเริ่มจากทำการโดยประเมินจากวัฏจักรชีวิต (Life – Cycle Assessment) ของผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือน 4 กลุ่มได้แก่
1.ผ้าอนามัยและผ้าอนามัยแบบสอด แบบใช้แล้วทิ้งทั้งออร์แกนิคและไม่ออร์แกนิค (พร้อมที่สอด)
2.แผ่นอนามัยแบบใช้ซ้ำได้
3.กางเกงอนามัย
4.ถ้วยอนามัยซึ่งทำจากซิลิโคนหรือยาง ซึ่งสามารถรองรับประจำเดือนได้ประมาณ 20 – 30 มิลลิลิตร (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
ซึ่งการประเมินในครั้งนี้ได้เปรียบเทียบกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมทั้ง 8 ด้านได้แก่ ศักยภาพในการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน, การใช้ทรัพยากรฟอสซิล, การใช้ที่ดิน, การใช้น้ำ, ผลกระทบที่ก่อให้เกิดมะเร็ง, ความเป็นพิษต่อระบบนิเวศ, ความเป็นกรด, และภาวะยูโทรฟิเคชัน (แหล่งน้ำมีไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) มากเกินไป)
การประเมินในครั้งนี้ใช้ระยะเวลา 1 ปี และใช้ข้อมูลจาก 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการกำจัดทิ้ง
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้ง 3 ประเทศแล้วพบว่า ถ้วยอนามัยเป็นผู้ชนะแบบขาดรอย ตามมาด้วยกางเกงอนามัยแบบใช้ซ้ำ และอันดับสุดท้ายคือผ้าอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวและผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งถ้วยอนามัยมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สามารถใช้ได้นานถึง 10 ปี โดยผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือนแต่ละประเภทมีเหตุผลกระกอบดังนี้
- ถ้วยอนามัย : มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก สามารถล้างและใช้ได้ยาวนานถึง 10 ปี สามารถลดพลาสติกในการผลิตได้ปริมาณมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก ๆ
- ผ้าอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งทั้งออร์แกนิกและไม่ออร์แกนิก: ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูงในทั้ง 8 ด้าน โดยเฉพาะผ้าอนามัยแบบไม่ใช่ออร์แกนิกส่งผลกระทบต่อโลกร้อน และทำให้สูญเสียทรัพยากรมากที่สุด และก็เป็นที่น่าแปลกใจเหมือนกันว่าผ้าอนามัยแบบออร์แกนิกส่งผลกระทบสูงสุดใน 5 ด้าน ซึ่งผลกระทบส่วนใกญ่มาจากกระบวนการผลิต เช่น การทำฟาร์มฝ้าย
- ผ้าอนามัยแบบใช้ซ้ำและกางเกงอนามัย : ผ้าอนามัยแบบใช้ซ้ำและกางเกงอนามัย ถึงแม้จะฟังดูเหมือนว่าไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่การผลิตและการใช้งานก็ยังเป็นปัจจัยที่สำคัญโดยเฉพาะความต้องการทางไฟฟ้าและน้ำ เพราะการนำกลับมาใช้ซ้ำก็จะต้องซักผลิตภัณฑ์ก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลด้วย เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน รวมไปถึงความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย “เลือกผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ซ้ำได้เมื่อทำได้ แต่ถ้ารู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่งตลอดทั้งรอบเดือน หรือไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ซ้ำได้ในบางประการ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ชนิดรวมกัน คุณก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางบวกได้อยู่ดี” “เมื่อเราพยายามเลือกสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มันจะไม่บ่อยนักที่จะพบกับทางออกที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ” เปเรซ โลเปซ ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยจากฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา
ที่มา